วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

กินอาหารใส่ภาชนะ "โฟม" เสี่ยงโรคมะเร็ง


"โฟม" เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่ผลิตจากพลาสติกประเภทโพลีสไตรีน (Polystyrene: PS)
ถ้าถูกนำไปใช้บรรจุอาหารที่ร้อนจัด และอาหารทอดที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ
จะเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้สารอันตรายแตกตัวออกมาปนเปื้อนกับอาหาร ได้แก่ สารเบนซีน(Benzene)
ที่หากดื่ม หรือกินอาหารที่มีสารเบนซีนปนเปื้อนสูงจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง
เนื่องจากกระเพาะถูกกัดกร่อน เวียนศีรษะ คลื่นไส้ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้


แต่ที่เป็นอันตรายที่สุด คือ “สารสไตรีน”(Styrene)
ที่มีพิษทำลายไขกระดูก ตับ และไต ทำให้ความจำเสื่อม
มีผลต่อการเต้นของหัวใจ และเป็นสารก่อ “มะเร็ง”
โดยอาจก่อให้เกิดมะเร็งเส้นเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้

สำหรับ “เส้นทางมะเร็ง” จากสารสไตรีนในกล่องโฟมจะเข้าสู่ร่างกายได้จาก 5 ปัจจัย ได้แก่
1. อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นหรือเย็นลง ทำให้สไตรีนซึมเข้าสู่อาหารได้สูง
2. ถ้าปรุงอาหารโดยใส่น้ำมัน น้ำส้มสายชูแอลกอฮอล์ จะดูดสารสไตรีนจากกล่องโฟมได้มากกว่าปกติ
3. ถ้าชื้ออาหารใส่กล่องทิ้งไว้นานๆ ไม่ได้รับประทาน อาหารจะดูดสารสไตรีนได้มาก
4. ถ้านำอาหารที่บรรจุในกล่องโฟมเข้าไมโครเวฟ สไตรีนจะไหลออกมาในปริมาณมาก 
5. ถ้าอาหารสัมผัสพื้นที่ผิวกล่องโฟมมากๆ รวมถึงร้านใดที่ตัด “ถุงพลาสติกใส” รองอาหาร
จะได้รับสารก่อมะเร็งถึง “2 เด้ง” ทั้งสไตรีน จากโฟม และไดออกซิน จากถุงพลาสติก
 “หากรับประทานอาหารจากกล่องโฟม วันละอย่างน้อย 1 มื้อ ติดต่อกันนาน 10 ปี มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงกว่าคนปกติถึง 6 เท่า ที่สำคัญกล่องโฟมทนความร้อนได้เพียง 70 องศาเซลเซียส แต่สิ่งที่เราทานกันเป็นประจำ เช่น ข้าวผัด หรือผัดกะเพรา เป็นต้น ล้วนมีความร้อนเกินมาตรฐานกำหนด ส่งผลให้สารอันตรายปนเปื้อนออกมากับอาหารในปริมาณสูง"

ที่มาข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

ชมคลิปวีดีโอความอันตรายของภาชนะโฟมใส่อาหาร





รู้แบบนี้แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการใส่อาหารในภาชนะโฟมนะคะ ทำไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ลดก็ยังดีค่ะ